สรรพคุณขั้นเทพของดอกดาวเรือง 
1.ละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอ
ช่อดอกดาวเรืองมีรสขม กลิ่นฉุนเล็กน้อย ทว่าก็มีสรรพคุณทางยาช่วยกล่อมตับ ขับร้อนจากร่างกาย ละลายเสมหะ แก้ไอหวัด ไอกรน บรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ คางทูม และสามารถสมานแผลให้หายเร็วขึ้นได้ โดยการใช้ภายในให้นำช่อดอกดาวเรือง 3-10 กรัม ต้มน้ำแล้วจิบเป็นชา ส่วนวิธีใช้ดอกดาวเรืองรักษาแผลภายนอก ให้นำช่อดอกดาวเรืองต้ม รอให้อุ่น แล้วนำน้ำต้มดาวเรืองมาชะล้างบริเวณที่เป็นแผล

2.ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
จากการศึกษาของสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า สารสกัดดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส (Alpha-glucosidase) ซึ่งมีหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลในลำไส้ส่วนเล็กเพื่อให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ดีขึ้น ดังนั้นสารสกัดจากดอกดาวเรืองจึงมีฤทธิ์ลดการดูดซึมกลูโคสในร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดี โดยเฉพาะในกรณีน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นหลังรับประทานอาหาร และการที่ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงก็จะส่งผลดีในด้านช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชั่น (Oxidative stress) ที่อาจเกิดในผนังหลอดเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้อัตราความเสี่ยงโรคแทรกซ้อน (Vascular complication) ในผู้ป่วยเบาหวานลดลงได้อีกด้วย

3.ต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งเซลล์มะเร็ง
จากการศึกษาสารสกัดน้ำของดอกไม้ 4 ชนิด (ดาวเรือง ดาวกระจาย พวงชมพู และเฟื่องฟ้า) ของสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า สารสกัดจากดอกดาวเรืองจะมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระดีที่สุด เมื่อทดสอบด้วยวิธี Ferric Reducing Antioxidant Power (FRAP assay) และวิธี Cellular Antioxidant Activity (CAA assay) และสารที่พบในดอกไม้ทั้ง 4 ชนิด พบว่าส่วนใหญ่เป็นพวกกรดฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์ โดยดอกดาวเรืองจะมีกรดฟีนอลิกสูงกว่าดอกไม้อื่น ๆ ประมาณ 3-4 เท่า
ส่วนการทดลองฤทธิ์ในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งลำไส้ เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร และเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี พบว่า สารสกัดน้ำจากดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งทั้ง 3 ชนิดได้เทียบเท่ากับสารสกัดน้ำดอกพวงชมพูและดอกเฟื่องฟ้า อีกทั้งการศึกษายังพบว่า สารสกัดดอกดาวเรืองจะมีฤทธิ์ดีที่สุดในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งลำไส้ (IC50 เท่ากับ 1.5 mg/ml)

4.ลดไขมันในเลือด
นอกจากสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือดแล้ว สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังพบว่า สารสกัดดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไลเปส (Pancreatic lipase) เอนไซม์ช่วยย่อยไขมันจากตับอ่อน ได้เทียบเท่ากับสารสกัดของดอกดาวกระจาย และดอกเฟื่องฟ้า โดยจัดเป็นสารพฤกษเคมีประเภทสารประกอบฟีนอลิก มีฤทธิ์ทำให้เอนไซม์ย่อยไขมันทำงานไม่เป็นปกติ ส่งผลให้การย่อยอาหารที่มีไขมันและการดูดซึมไขมันของร่างกายลดลง จึงช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด และลดโอกาสเกิดโรคอ้วนได้

5.บำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้ทำการวิจัยสารสกัดจากดอกดาวเรืองและพบว่า สารสกัดจากดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียแกรมบวกอย่าง S.aureus และ S. epidermidis ได้ดี และสารสกัดดอกดาวเรืองที่ได้ยังสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดี เนื่องจากมีกรดฟีนอลิกที่สำคัญ ได้แก่ กรดแกลลิก กรดวานิลลิก กรดคาเฟอิก กรดคูมาริก และกรดไซรินจิก ซึ่งมีประโยชน์ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัย อีกทั้งยังสามารถป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีได้ดีอีกด้วย

โดยเพียงแค่นำดอกดาวเรืองสดหรือนำดอกดาวเรืองไปตากแห้ง แล้วแช่ในเอทานอล อาจแช่ทิ้งไว้เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ หรือแช่ในน้ำบริสุทธิ์แล้วให้ความร้อนอย่างน้อย 15 นาที โดยใช้เตาไมโครเวฟ 15-35 นาที จะทำให้ได้สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ เช่น บาล์ม ยาหม่อง สเปรย์น้ำฉีดผิวหน้าและผิวกาย ให้ความชุ่มชื้น บรรเทาอาการระคายเคืองต่อผิว แก้ผื่นคัน หรือถ้านำไปผสมในครีมหรือโลชั่นทาบำรุงผิวพรรณเพื่อช่วยลดริ้วรอยก็ได้เช่นกัน

ดอกดาวเรืองตูมสด" เสี่ยงอันตราย ทั้งสารเคมี ไร้ผลวิจัยมีประโยชน์-โทษ สารบำรุงสายตามีในสารสีเหลืองของดอกดาวเรืองบาน แนะตากแห้งชงเป็นชาดื่มบางครั้ง
***คนป่วยตับ-ไต-ให้นมบุตรควรเลี่ยง 
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com, health.kapook.com
ภาพ..น้ำหวาน ^___^